กลูโคซามีนเป็นสารประกอบประเภทนำ้ตาล ซึ่งจะถูกนำไปใช้เป็นสารตั้งต้นในการสร้างองค์ประกอบของกระดูกอ่อนซึ่งอยู่ ที่บริเวณส่วนปลายของกระดูก กระดูกอ่อนมีความยืดหยุ่นได้ดี ทำหน้าที่ในการลดแรงเสียดทาน ลดแรงกระแทก ทำให้ข้อมีการเคลื่อนไหวได้ดี
"กลูโคซามีน" เป็นสารที่เป็นโครงสร้างหน่วยย่อย (building unit) ของ "ไคติน และ ไคโตซาน" ซึ่งเป็นสารที่พบมากในเปลือกกุ้ง กระดองปู แกนหมึก เปลือกของแมลง และผนังเซลของเห็ดราบางชนิด โดยในทางอุตสาหกรรมอาหาร "ไคติน" จะถูกย่อยสลายด้วยกรดและผ่านการทำบริสุทธิ์ เพื่อให้ได้ "กลูโคซามีน" ที่อยู่ในรูปบริสุทธิ์สูง ทั้งนี้ กลูโคซามีน ที่สามารถนำไปใช้บำบัดผู้ป่วยโรคข้อเสื่อมจะต้องอยู่ในรูปของ กลูโคซามีน ซัลเฟต หรือ กลูโคซามีน ไฮโดรคลอไรด์ เพื่อใช้สำหรับรับประทาน ซึ่งมีคุณสมบัติละลายน้ำได้ดี สามารถถูกดูดซึมทางลำไส้ได้อย่างรวดเร็วเข้าสู่กระแสเลือด และเนื่องจากสารประกอบกลูโคซามีนทั้งสองน้ำหนักโมเลกุลต่ำ จึงทำให้สามารถซึมผ่านผนังหลอดเลือดผ่านน้ำในข้อ และเข้าสู่เซลล์ของกระดูกอ่อนผิวข้อได้โดยง่าย
คุณภาพสูงกว่าสินค้าทั่วไป
มีแมงกานีสเข้มข้น , โบรอน , ออพติ MSM ( กำมะถันผงที่ช่วยให้กลูโคซามีนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ) 5- ล็อกซิน ( มีส่วนผสมของกรดบอสเวลลิค )
เนื่องจากร่างกายของคนเรา "ไม่สามารถ" ผลิตเอ็นไซม์(น้ำย่อย)ที่ย่อย ไคติน และ ไคโตซาน ให้เป็น กลูโคซามีน ได้ ฉะนั้น การทานเปลือกกุ้ง กระดองปู แกนหมึก เปลือกของแมลง ในอาหารมื้อปกติ เพื่อหวังให้ร่างกายได้รับ "กลูโคซามีน" ก็คงทำไม่ได้เช่นกัน
ฉะนั้น หากเราต้องการ "กลูโคซามีน" ซึ่งเป็นส่วนประกอบของเปลือกกุ้ง,กระดองปู โดยตรงแล้วละก็ แนะนำว่าเราควรทานในรูปแบบผลิตภัณฑ์กลูโคซามีน ประเภทยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพราะส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ประเภทนั้น ได้ผ่านกระบวนการ(ทางวิทยาศาสตร์)ย่อยให้ได้ "กลูโคซามีน" บริสุทธิ์ออกมาจากเปลือกกุ้ง,กระดองปู เรียบร้อยแล้ว
หมายเหตุ : ผลิตภัณฑ์กลูโคซามีน ซัลเฟต ที่จำหน่ายในประเทศไทย ขึ้นทะเบียนเป็นยาฯ จึงต้องซื้อผ่านคำแนะนำของเภสัชกรหรือแพทย์
จากผลการทดสอบทางคลินิกพบว่า ภายใน 1 อาทิตย์ช่วยให้ข้อต่อ / ไขข้อต่างๆ ทำงานดีขึ้นและยืดหยุ่นมากขึ้นอย่างผลเห็นได้ชัดเจนประกอบด้วยกลูโคซามีนและคอนดรอยตินในปริมาณที่ทดสอบแล้วว่าเหมาะสม ช่วยในการป้องกัน หล่อลื่น และเป็นตัวรองรับกระดูกอ่อน
ไม่เหมาะกับผู้ป่วยโรคไต ผู้แพ้อาหารทะเล และผู้ป่วยเบาหวานที่ยังคุมน้ำตาลไม่ได้
ไม่เหมาะกับผู้ป่วยโรคไต ผู้แพ้อาหารทะเล และผู้ป่วยเบาหวานที่ยังคุมน้ำตาลไม่ได้
รับประทานวันละ 4 เม็ด ทานพร้อมอาหาร เช้า และ เย็น ครั้งละ 2 เม็ด
ข้อต่อของเรายังแข็งแรงอยู่หรือไม่?ข้อต่อเป็นส่วนที่สำคัญของร่างกาย ข้อต่อเป็นตัวที่กำหนดการเคลื่อนไหวของร่างกายคู่กับกระดูกที่คอยค้ำยันร่างกาย การเคลื่อนไหวที่ขัดๆ มีเสียงในข้อเมื่อเคลื่อนไหวมาพร้อมกับอาการเจ็บ อาการเสียวแปล็บๆ บ่งบอกถึงความสมบูรณ์ของข้อต่อเริ่มถดถอยลง
ผู้มีอาการดังกล่าวมามักจะไปพบแพทย์ แพทย์จะให้ยาหรือให้ทำกายภาพบำบัดตามอาการ ถ้าข้อเสื่อมมากก็จะให้ยาเฉพาะเพื่อรักษา คนป่วยมักไม่หายจากอาการนี้เพราะข้อที่เสื่อมเกิดจากการสึกหรอของกระดูกอ่อนรองข้อ
ยาที่ใช้รักษาจะทานต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ ไม่ได้เนื่องจากยาจะส่งผลข้างเคียงกับตับของเรา ดังนั้นหมอจึงจะให้เราหยุดยาบ้าง กินยาบ้างสลับกันไป คนที่มีปัญหาเรื่องข้อต้องทำความเข้าใจ มีอีกวิธีหนึ่งที่ใช้ในปัจจุบันใช้เสริมความแข็งแรงให้ข้อต่อคือการเสริมด้วยกลูโคซามีน เป็นอาหารเสริมทานเพื่อทดแทนสารอาหารที่เรารับประทานมีกลูโคซามีนไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย จึงทำให้ข้อของเราสึกหรออย่างรวดเร็ว
ลองหลับตานึกภาพคนไทยปัจจุบันเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมมากกว่า 6 ล้านคนและมีแนวโน้มที่จะเป็นข้อเข่าเสื่อมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากคนไทยมีอายุยืนมากขึ้น โรคข้อเข่าเสื่อมก่อให้เกิดความเจ็บปวด ขาโก่ง เข่าผิดรูป ทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยแย่ลง ไม่สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติ มีปัญหาในการเคลื่อนไหวร่างกาย ทำให้ผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมไม่สามารถเดินทางไปเที่ยวในที่ต่างๆได้ อาการปวดข้อในผู้ป่วยกลุ่มนี้มักจะมีอาการปวดตอนเดิน หรือยืนนานๆอาการปวดจะค่อยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ในขณะที่นั่งอยู่เฉยๆมักจะไม่มีอาการปวด เมื่ออาการเป็นมากขึ้นเข่าจะเริ่มมีอาการผิดรูป เข่าโก่ง หรือเข่าฉิ่งร่วมด้วย โรคข้อเข่าเสื่อมเกิดเนื่องจากมีการเสื่อมของกระดูกอ่อนผิวข้อตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น ร่วมกับน้ำหนักของร่างกายที่มากจึงทำให้เกิดการเสื่อมของข้อเข่าได้มากขึ้น
หากความรู้ของเรา สามารถทำให้อาการเหล่านี้ทุเลาลง ทำให้ความเจ็บป่วยของพวกเขาค่อยๆ ลดลงและสุขภาพของข้อเข่าดีขึ้นกลับมาทำกิจกรรมที่อยากทำได้สะดวกขึ้น ถือเป็นทางเลือกให้กับทุกๆ คน
อย่ากังวลเกี่ยวกับผลการวิจัยที่ออกมา บางค่ายว่าไม่ได้ผล บางค่ายบอกว่าได้ผล แต่ทุกประเทศอนุญาติให้จำหน่ายในรูปแบบที่แตกต่างกัน บ้างก็เป็นอาหารเสริม บ้างก็เป็นยา
กลูโคซามีน เป็นสารเคมีชนิดหนึ่งที่พบในน้ำไขข้อปกติตามธรรมชาติ จะมีปริมาณลดลงเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นซึ่งเกิดเนื่องจากมีการเสื่อมของกระดูกอ่อนผิวข้อ และทำให้ปริมาณของโปรติโอไกลแคนลดลง สารกลูโคซามีนเป็นสารตั้งต้นในการสร้างโปรตีโอไกลแคน ดังนั้นเมื่ออายุมากขึ้นจึงมีการแนะนำให้ทานยากลุ่มกลูโคซามีนเสริมเพื่อชะลอการเสื่อมของกระดูกอ่อนข้อเข่า จะดีกว่าท้ายที่สุดหมอจะรักษาด้วยการ ฉีดยาสเตียรอยด์เข้าข้อเข่าจะมีประโยชน์ในกรณีที่ข้อเข่าเสื่อม ร่วมกับมีน้ำในข้อเข่าซึ่งเกิดจากการอักเสบ จะช่วยลดอาการปวดและการอักเสบได้ดีชั่วคราว ซึ่งส่วนใหญ่ที่แพทย์แนะนำให้ฉีดยาไม่เกิน 3 ครั้งต่อปีก็เพราะกลัวว่าจะมีการทำลายกระดูกอ่อนผิวข้อเพิ่มมากขึ้น และอาจจะมีผลเสียต่อร่างกาย อย่างไรก็ตามการใช้ยาฉีดสเตียรอยด์ที่จะทำให้เกิดผลข้างเคียงมากน้อยเพียงใดรนั้นก็ขึ้นกับปริมาณและความถี่ที่ฉีดด้วยส่วนใหญ่หมอที่ไม่ใช่หมอเฉพาะทางจะเลือกวิธีนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น